Product Description
อี๋!!!! “เจ้าแมลงสาบ” เจ้าตัวสกปรก ตัวแพร่เชื้อโรค มันกำลังลุกลานและเพิ่มประชากรอย่างรวดเร็ว
แมลงสาบเป็นสัตว์ที่สืบเชื้อสายมาไม่ต่ำกว่า 320 ล้านปี ในโลกนี้มีแมลงสาบไม่ต่ำกว่า 4600 สายพันธุ์ มีเพียงราวๆ 30 สายพันธุ์ ที่มาป้วนเปี้ยนอยู่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัยของมนุษย์ แต่มีเพียงแค่ไม่กี่สายพันธุ์เท่านั้นที่เป็นศัตรูคู่โลกมนุษย์ให้เราได้เห็นกันบ่อยๆ แมลงสาบในภาษาอังกฤษ เรียกว่า “cockroach” เป็นคำที่เปลี่ยนมาจากภาษา Spanish “cucaracha”
นักวิจัยบอกว่า “แมลงสาบเป็นสัตว์สังคมชั้นสูง!!!” แมลงสาบไม่ชอบอยู่ตัวคนเดียว มันชอบอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ๆ และมันสามารถจดจำสมาชิกในครอบครัวของมันได้
น่าสนใจมากๆว่าแมลงสาบที่เติบโตมาด้วยตัวมันตัวเดียว ไม่มีสังคมนั้นใช้ชีวิตได้ยากลำบากมากกว่าแมลงสาบที่เติบโตล้อมรอบไปด้วยเพื่อนๆ ตัวอย่างเช่น แมลงสาบเยอรมัน และ แมลงสาบอเมริกา ที่ไม่มีเพื่อนฝูงจะใช้ระยะเวลาเติบโตในระยะลอกคราบนานกว่าปกติ (ระยะเวลาระหว่างลอกคราบเพื่อจะตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนเป็นแมลงสาบโตเต็มไว) หลังจากนั้นเมื่อมันโตเต็มที่เป็นแมลงสาบผู้ใหญ่ มันจะประสบปัญหาการเข้าฝูงกับเพื่อนแมลงสาบตัวอื่นๆเพราะมันไม่รู้ว่าจะสื่อสารกับเพื่อนๆอย่างไร รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวัน แมลงสาบที่โตมาอย่างโดดเดียวจะไม่ค่อยออกจากที่ซ่อนซักเท่าไหร่ ถึงแม้ออกมาก็จะรีบๆกินแล้วรีบๆกลับบ้าน และประสบปัญหาการหาคู่ผสมพันธุ์ด้วย เพราะฉะนั้น แมลงสาบเด็กๆควรจะอยู่รวมกับฝูงเพื่อเรียนรู้ปฏิสัมพันธ์กับแมลงสาบตัวอื่นๆ และเติบโตขึ้นอย่างเหมาะสม
นักวิจัยยังบอกอีกว่า แมลงสาบสามารถพูดคุยกันได้!! เกี่ยวกับอาหารและที่อยู่อาศัย แมลงสาบสามารถปล่อยสารเคมีเพื่อส่งต่อข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่และชนิดของอาหารไปสู่แมลงสาบตัวอื่นๆได้ รวมถึงสามารถบอกเพื่อนๆได้อีกว่า รูไหนรอยแตกไหนของบ้านเหมาะสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยปราศจากการรบกวน
แมลงสาบสามารถ “Identify each other” แยกแยะว่าแมลงสาบตัวไหนเป็นใคร และมันมีความสัมพันธ์ หรือ สนิทด้วยรึเปล่า ซึ่งการแยกแยะนี้ ทำให้มันรู้ว่า แมลงสาบตัวไหนเป็นพี่น้องมัน และป้องกันการผสมพันธุ์กับพี่น้องตัวเอง
ด้วยความที่มันเป็นสัตว์สังคมมันสามารถพูดคุยกันได้ผ่านทางสารเคมีรูปแบบต่างๆที่มันปล่อยออกมา ทำให้มันเลือกที่จะอาศัยอยู่ด้วยกัน ออกหากินด้วยกัน จึงไม่แปลกเลย ที่เมื่อเราเจอรังแมลงสาบเราจะเจอแมลงสาบตัวเล็กตัวใหญ่อยู่รวมกันเต็มไปหมด รวมถึงเวลามันออกมากินอาหารตอนกลางคืนด้วย
วงจรชีวิตของแมลงสาบ
แมงสาบตัวเมียโตเต็มไวสามารถออกไข่ได้ราวๆ 6-14 ฟองในช่วงชีวิตของมัน ในไข่ 1 ฟอง ประกอบไปด้วยตัวอ่อนราวๆ 10-40 ตัว ตัวอ่อนจะออกจากไข่หลังจากราวๆ 20-60 วัน ตัวอ่อนจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงรูปร่างและขยายใหญ่ขึ้นด้วยการลอกคราบราวๆ 10-13 ครั้ง ในระยะเวลาหลายเดือนจนถึงปี จนกระทั้งเป็นแมลงสาบโตเต็มวัย แมลงสาบโตเต็มวัยมีอายุอยู่ได้ราวๆ 6 เดือน – 4 ปี (ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของแมลงสาบ)
กลิ่นแมลงสาบมาจากไหน?
แมลงสาบเพียง 1-2 ตัว ไม่สามารถทำให้มนุษย์ได้กลิ่นสาบของมันได้ กลิ่นสาบของแมลงสาบจะแรงมากๆถ้าเกิดมีแมลงสาบอยู่ร่วมกันหลายตัว ถ้าได้กลิ่นแมลงสาบเข้าจมูกอย่างชัดเจนให้สันนิฐานได้เลยว่าแถวๆนั้นต้องมีรังแมลงสาบอยู่แน่ๆ!!
แมลงสาบปล่อยกลิ่นออกมาด้วยเหตุผลหลักๆ 3 อย่างดังนี้
1.กลิ่นสารคัดหลั่งของแมลงสาบ แมลงสาบจะปล่อยสารฟิโรโมนออกมาเมื่อมันอยู่รวมด้วยกัน แมลงสาบปล่อยสารออกมาเพื่อบอกเพื่อนแมลงสาบตัวอื่นๆให้รู้ว่ามันได้เจอสถานที่ดีๆที่จะทำรังแล้ว ให้มารวมกันตรงนี้ เช่นพวกสถานที่มืดและแฉะทั้งหลาย ตามท่อน้ำ สถานที่เหล่านี้จึงเป็นแหล่งรวมแมลงสาบ และไม่ว่าแมลงสาบจะเดินไปที่ไหนมันจะทิ้งสารคัดหลั่งมีกลิ่นเหม็นนี้ไว้ตามทางด้วย เพราะฉะนั้นถ้ามันเดินขึ้นอาหารเมื่อไหร่ อวสารอาหารหมาเลยครับ ทิ้งได้เลย
2.กลิ่นเมื่อแมลงสาบตาย เมื่อแมลงสาบตายมันจะปล่อยกลิ่นออกมา เป็นกลิ่นสาบสัตว์ตาย มันคือกลิ่นจาก “กรดโอเลอิก” ถ้าแถวๆนั้นมีซากแมลงสาบตายเยอะ กลิ่นสาบนี้ก็จะแรงเป็นพิเศษ
(อะไรคือกรดโอเลอิก? ในแมลงกรดโอเลอิกทำหน้าที่เป็นฟีโรโมนที่ปล่อยออกมาจากซากของแมลง เพื่อกระตุ้นให้แมลงตัวอื่นขนซากไปทิ้ง หากแมลงที่ยังมีชีวิตอยู่มีกลิ่นนี้ก็จะถูกขนออกจากรังเช่นกัน นอกจากนี้กรดโอเลอิกยังใช้เตือนแมลงตัวอื่นให้หลีกเลี่ยงแมลงที่ป่วยตายและเตือนภัยนักล่า)
3. กลิ่นที่ปล่อยออกมาเพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม แมลงสาบเป็นแมลงที่ปล่อยกลิ่นเพื่อดึงดูดเพศตรงข้ามเช่นกันเหมือน แมลง และ สัตว์ชนิดอื่นๆ แมลงสาบตัวเมียเพียง 1 ตัว สามารถปล่อยกลิ่นเพื่อดึงดูดแมลงสาบตัวผู้จำนวนมหาศาลมาหามันได้ และมันชั่งแย่เหลือเกิน นอกจากแมลงสาบตัวผู้จะได้กลิ่นแล้ว มนุษย์อย่างเราก็ได้กลิ่นเช่นกัน
ชีววิทยาและนิเวศวิทยา
เป็นแมลงสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่พบตามบ้านเรือน สามารถมีขนาดใหญ่ได้ถึง 50 มิลลิเมตร ลำตัวมีสีน้ำตาลแดงมันวาว โดยแมลงสาบอเมริกันสามารถบินได้ด้วย โดยเมื่อกางปีกออกสุดจะมีความยาวมากกว่าความยาวของลำตัว
แมลงสาบอเมริกัน เดิม ได้ถูกพบใน ทวีปแอฟริกาเขตร้อน เป็นแมลงสาบที่มีลำตัวขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 30-40 มิลลิเมตร มีสีน้ำตาลแดง ปีกยาวทั้งตัวผู้และตัวเมีย บินเก่ง ชอบออกหากินในเวลากลางคืน กลางวันจะนอนพัก หรือหลบซ่อนตัวตามซอกมุม ใต้ตู้ ชั้นเก็บของ ในที่มืด อับ จะพบมากตามโกดังเก็บสินค้า หรือ ตามบ้านเรือนทั่วไป แต่ในปัจจุบันได้แพร่กระจายไปทั่วโลก มักชอบอาศัยในพื้นที่ที่อบอุ่น ชื้น และมืด หลบซ่อนตัวเก่ง อาศัยตามท่อระบายน้ำ ภายใต้โครงสร้างอาคาร หรือในเรือ สามารถกินอาหารได้หลากหลายชนิด จึงทำให้เจริญเติบโตได้ดีในที่ใดก็ตามที่พอจะมีแหล่งอาหาร
แมลงสาบอเมริกัน มักอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม แต่ไม่ได้เป็นแมลงสังคม ออกหากินตอนกลางคืน ในระหว่างวันจะซ่อนตัวอยู่ตามรอยแยก รอยแตก แม้พวกมันจะชอบพื้นที่ที่มีความชื้น อบอุ่นและมืด แต่พวกมันก็สามารถปรับตัวอาศัยอยู่ในที่ๆ แห้งแล้งได้เช่นกัน นอกจากนี้ แมลงสาบอเมริกันจะสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วมาก
แหล่งอาหารของแมลงสาบนั้นก็คืออาหารทั่วๆไปที่มนุษย์กิน ถ้าเกิดมันหาอาหารทั่วไปในบ้านเรากินไม่ได้ เศษผม เศษหนัง เศษเล็บ ของมนุษย์ มันก็กินประทังชีวิตได้ หนักเข้าจริงๆ สบู่ กาว กระดาษ กล่องกระดาษ มันก็กิน!!
กิตติศัพท์ของเจ้าแมลงสาบ ก็คือความสกปรกและการเป็นพาหะนำโรค มันกำลังเดินเข้ามาสู่คน มันก็คือ “เจ้าแมลงสาบ” ตัวร้ายนำเชื้อโรคนั้นเอง มันสามารถนำพาเชื้อโรค อหิวาตกโรค โรคผื่นคัน โรคภูมิแพ้และหอบหืด แถมยังสามารถแพร่กระจายเชื้อแบคทีเรียไปทั่วได้อย่างรวดเร็ว
เจ้าแมลงสาบตัวใหญ่ที่เราเห็นจนชินตาแล้ว ยังมีแมลงสาบตัวเล็ก ๆ ที่คอยสร้างปัญหาให้กับเราและพบได้บ่อยตามบ้านหรือคอนโด นั่นก็คือ แมลงสาบเยอรมัน หรือ เยอรมัน คอกโรช (German Cockroach) แมลงสาบตัวเล็ก สีน้ำตาลอ่อน ที่ชอบอาศัยอยู่ตามที่อับชื้นและเปียกแฉะ อย่างในห้องครัว ห้องเก็บของ และตู้เสื้อผ้า แม้จะมีดีกรีความสกปรกไม่มากเท่าแมลงสาบตัวใหญ่ แต่ แมลงสาบเยอรมัน แมลงสาบตัวเล็ก ๆ เหล่านี้ก็สร้างความน่ารำคาญให้กับเราไม่น้อยเลย
แมลงสาบเป็นสิ่งมีชีวิตที่ปรับตัวได้มากที่สุดในโลกซึ่งทำให้การควบคุมและกำจัดการระบาดของแมลงสาบยากขึ้นทุกวันในการกำจัดแมลงสาบในบ้านของคุณผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า
หลังการทำครัวทุกครั้งควรทำความสะอาดให้เรียบร้อยทันที ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์ โต๊ะอาหาร หรือแม้กระทั่งถังขยะ ส่วนอาหารที่เหลือจากการกินก็อย่าวางทิ้งไว้โดยเด็ดขาด ให้เก็บเข้าตู้กับข้าวหรือหาที่ปิดให้มิดชิด แล้วอย่าลืมนำขยะไปทิ้งนอกบ้านด้วย เพื่อไม่ให้แมลงสาบตัวเล็กมีอาหารไว้หล่อเลี้ยงชีวิต
เจ้าของบ้านควรหาทางเข้าออกของแมลงสาบ และทำการปิดผนึกรอยแตกและรูทั้งหมดในบ้านรวมถึงจุดเข้าสาธารณูปโภคและท่อเนื่องจากมันเป็นช่องทางของแมลงสาบ ให้เดินเข้ามาภายในอาคาร บ้านเรือน การควบคุมและกำจัดแมลงสาบมีความสำคัญต่อสุขภาพและความปลอดภัยของคน
แต่มาทำทุกวิถีทางแล้วเจ้าแมลงสาบก็ไม่หมดไปสักที เราขอนำเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับกำจัดแมลงสาบแบบง่ายๆ และ เห็นผลทันทีมาเสนอ นั้นก็คือ
“ กับดัก เจล และ ผงกำจัดแมลงสาบ เซกลีรา 40 ดับเบิ้ลยูเอสจี (Seclira 40 WSG)”
ออกฤทธิ์ Knockdown ได้รวดเร็ว,ไม่ทิ้งคราบ,ไม่มีกลิ่น,กำจัดแมลงได้หลายชนิด เป็นผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงที่สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร
เซกลีรา 40 ดับเบิ้ลยูเอสจี สารออกฤทธิ์ชนิดใหม่ควบคุมแมลงรบกวนที่ดื้อสารกลุ่มไพรีทรอยด์ เช่น ไซเพอร์เมทริน และสารกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต เช่น คลอไพรีฟอส เซกลีรา 40 WSG ออกฤทธิ์ Knockdown ได้รวดเร็ว ไม่มีกลิ่น อีกทั้งยังไม่ทิ้งคราบสกปรก เนื่องด้วยการออกฤทธิ์แบบไม่ขับไล่แมลง (Non-repellent) จึงทำให้แมลงไม่รู้ตัวว่าสัมผัสกับสารเคมี และทำให้เซกลีรา 40 WSG แพร่กระจายไปยังแหล่งหลบซ่อน และแมลงตัวอื่น ๆ ที่อยู่ในรังได้ เพราะ แมลงสาบ เป็นแมลงกึ่งสังคมที่มีพฤติกรรมในการอยู่ร่วมกัน ใช้การสัมผัสกันในการสื่อสาร การกินอาหาร และกินซากกันเอง จึงเป็นสาเหตุที่แมลงตัวอื่นได้รับสารเคมีไปด้วย เซกลีรา 40 WSG จึงช่วยลดการแพร่ระบาดของแมลงรบกวนได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมาก และยังสามารถใช้รวมกับ เซกลีรา เจลกำจัดแมลงสาบได้อีกด้วย
เจล และ ผงกำจัดแมลงสาบ เซกลีรา 40 ดับเบิ้ลยูเอสจี (Seclira 40 WSG)
ประโยชน์ | ใช้กำจัดแมลงสาบ แมลงคลาน ตามอาคาร หรือ บ้านเรือน โกดัง |
ผ่านการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย (อย) แบบผง | วอส. 363/2558 |
ผ่านการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย (อย) แบบเจล | วอส. 558/2556 |
สารออกฤทธิ์ | ไดโนทีฟูราน (Dinotefuran) 40% W/W แบบผง
ไดโนทีฟูราน (Dinotefuran) 0.5% W/W แบบเจล |
อยู่ในกลุ่มสาร | นีโอนิโคตินนอยด์ (Neonicotinoid) |
สูตรเคมี | สูตรน้ำมัน |
ผลกระทบต่อแมลง | ต่อระบบประสาทของแมลง ทำให้การทำงานผิดปกติและแมลงตายในที่สุด |
บรรจุ | 200 กรัม / ขวด แบบผง
30 กรัม / หลอด ( 1 กล่อง / 4 หลอด ) แบบเจล |
อัตราผสมแบบผง และ วิธีการใช้ | ผสมเซกลีรา 6.5 กรัม กับน้ำเปล่า 1 ลิตร
เซกลีราที่ผสมน้ำแล้ว 50 มิลลิลิตร สามารถฉีดพ่นได้พื้นที่ 1 ตารางเมตร ให้ฉีดพ่นตามทางเดิน ซอก มุม แหล่งที่หลบซ่อนของแมลงทั้งภายนอก และ ภายในอาคาร |
วิธีการใช้งาน แบบเจล | บีบออกมาปริมาณ 3 กรัม (ขนาดเม็ดถั่วเหลือง) ป้ายลงบนกระดาษ หรือ แผ่นฟอยล์ วางตามทางเดิน ซอก มุม แหล่งที่หลบซ่อนของแมลงทั้งภายนอก และ ภายในอาคารควรวางเหยื่อที่จุดละประมาณ 6 ตารางเมตร |
อาการเกิดพิษ | 1. หากสูดดม อาจก่อให้เกิดการระคายต่อระบบทางเดินหายใจ
2. หากสัมผัสถูกผิวหนัง อาจก่อให้เกิดการระคายต่อผิวหนัง |
วิธีการเก็บรักษา | เก็บให้มิดชิด ไม่โดนแสงแดด และ เก็บห่างจากเด็ก อาหาร สัตว์เลี้ยง และ เปลวไฟ |
คำเตือน |
|